สถานการณ์ของเฟเนร์บาห์เช่ในยูโรปาลีกภายใต้การนำของโชเซ่ มูรินโญ่เริ่มต้นได้อย่างน่าพอใจ แม้จะชนะยูเนี่ยน แซงต์-กิลลอยส์ และเสมอเอฟซี ทเวนเต้ แต่การเดินทางในลีกตุรกีนั้นกลับไม่ราบรื่นนัก เพราะพวกเขาต้องเผชิญกับสถิติที่ไม่ลื่นไหลนักในขณะนี้ ส่งผลให้ทีมอยู่ในอันดับที่ 4 จากการแข่งขัน 8 นัด นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญในการสร้างแรงจูงใจให้พวกเขากลับสู่เส้นทางสู่ความสำเร็จ
แทงบอลง่ายๆ สมัครรับเครดิตฟรีทันที ที่ lockdown168
เฟเนร์บาห์เช่ภายใต้การคุมทีมของโชเซ่ มูรินโญ่ เริ่มต้นในศึกยูโรปาลีกได้อย่างน่าพอใจ ชนะยูเนี่ยน แซงต์-กิลลอยส์ และเสมอเอฟซี ทเวนเต้ แต่ในลีกตุรกี ขณะนี้ทีมกำลังมีปัญหา ฟอร์มไม่ดีนัก นั่งอยู่ที่อันดับ 4 หลังจากแข่งไป 8 นัด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นปีนี้ผ่านเข้ารอบยูโรปาลีกได้เพราะคว้าแชมป์เอฟเอคัพเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ฟอร์มในยุโรปยังไม่โดดเด่น สองเกมล่าสุดเสมอกับเอฟซี ทเวนเต้และเอฟซี ปอร์โต้ แต่อย่างไรก็ตาม ทีมกลับมามีลุ้นเมื่อชนะเบรนท์ฟอร์ด 2-1 ในลีก
เมื่อเรามองไปที่ปัญหาการบาดเจ็บของทั้งสองทีมในแมตช์นี้ จะพบว่าเฟเนร์บาห์เช่เจอปัญหาใหญ่ไม่น้อยเลย โดยโค้ชโชเซ่ มูรินโญ่ต้องบริหารทีมโดยไม่มีผู้เล่นสำคัญหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ อย่างเช่น:
นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นอย่างฟิลิป โคสติช, โออุซ ไอดิน, บาร์ตูจ เอลมาซ และเลเวนต์ เมอร์คานที่ไม่ได้ถูกเลือกใส่ไว้ในทีมสำหรับการแข่งขันยูโรปาลีก ส่งผลให้ทีมขาดตัวหลักในการทำเกมอย่างมาก
สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ไม่ดีไปกว่ากัน โค้ชเอริก เทน ฮากต้องขาดตัวผู้เล่นหลายคนที่สำคัญๆ เช่น:
อย่างไรก็ตาม แมทธิอัส เดอ ลิกท์ และคาเซมิโร มีคิวจะลงสนามและสร้างความหวังให้กับทีมในแมตช์นี้
สถานการณ์ที่ขาดตัวผู้เล่นหลักแบบนี้อาจทำให้ทั้งสองทีมต้องหันไปหาทางเลือกอื่นๆ ในการเล่น และได้ส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่น โดยเฉพาะในเกมใหญ่แบบนี้ ที่มีความสำคัญเป็นพิเศษในการลุ้นตั๋วเข้ารอบต่อไปของยูโรปาลีก
เมื่อพูดถึงสถิติการพบกันระหว่างเฟเนร์บาห์เช่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด จะเห็นได้ว่าทั้งสองทีมมีความสัมพันธ์ที่น่าสนใจ โดยเฟเนร์บาห์เช่แลกเปลี่ยนผลการแข่งขันระหว่างแพ้และชนะในหกเกมก่อนหน้านี้ที่เจอกัน สรุปแล้วมีการทำคะแนนที่ค่อนข้างสูสี ถือว่าไม่มีใครที่โดดเด่นเกินไป
ในการพบกันเด่นๆ ที่ผ่านมา มีผลการแข่งขันที่น่าจดจำที่สุด คือ เฟเนร์บาห์เช่ชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2-1 ในการแข่งขันที่จัดขึ้นที่บ้านของพวกเขาในรอบแบ่งกลุ่มของยูโรปาลีกซีซั่น 2016/17 นอกจากนี้ยังมีการแพ้ไป 0-3 ในปี 2004 และพลาดโอกาสอีกครั้งในปี 2016 โดยแพ้อีก 1-2 ที่บ้านของเฟเนร์บาห์เช่ ความสำเร็จดังกล่าวทำให้มีความมั่นใจในบรรยากาศการแข่งขันที่สนามเหย้าของพวกเขาสูงมาก
แต่ฟอร์มล่าสุดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่ต้องมาหาเสียงในยูโรปาลีกนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา อย่างไรก็ตาม ตารางคะแนนในลีกทำให้พวกเขาต้องสู้เพื่อโอกาสในการเข้ารอบ และพวกเขายังคงมีความหวังจากผลงานล่าสุดที่สู้กลับชนะเบรนท์ฟอร์ด 2-1
การพบกันเหล่านี้จึงอาจจะเป็นเรื่องค่อนข้างท้าทายสำหรับทั้งสองทีม เนื่องจากต่างก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากมาแล้วในการแข่งขัน แต่ปัจจัยที่สามารถส่งผลกระทบต่อฟอร์มรวมถึงปัญหาการบาดเจ็บและการลงโทษที่ทีมต้องเจอ
เมื่อพูดถึงการเล่นในบ้านของเฟเนร์บาห์เช่ ทีมนี้มีสถิติที่น่าประทับใจมากสำหรับรายการยูโรปาลีก โดยไม่แพ้ใครในเกมเหย้าล่าสุดเจ็ดนัดที่ผ่านมา และนับเป็นการชนะได้สี่จากห้านัดหลังที่ลงเล่นที่สนามของตัวเอง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความมั่นใจที่พวกเขามีในบ้านตัวเอง
ในทางกลับกัน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั้นยังคงต้องเผชิญกับปัญหาฟอร์มที่น่าผิดหวังในกรุ่งหลักของการแข่งขันยุโรป ซึ่งในสิบเกมล่าสุดพวกเขาชนะเพียงเกมเดียว และไม่มีชัยชนะในห้านัดที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าสถิติการเล่นนอกบ้านนั้นต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็น
สำหรับการเจอกันนี้เกมที่สนามของเฟเนร์บาห์เช่ จะเป็นอีกหนึ่งความท้าทายอย่างยิ่งระดับหนึ่งสำหรับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เนื่องจากประวัติศาสตร์การแข่งขันที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขามักจะประสบปัญหาเมื่อมาเยือนทีมนี้ ผลงานนอกบ้านของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่ต้องพบกับความกดดันในเกมใหญ่ ๆ อย่างนี้อาจทำให้พวกเขาต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
แต่ถ้ามองในแง่ดี แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็มีผู้เล่นที่สามารถพลิกเกมได้อยู่บ้าง ซึ่งอาจสร้างโอกาสในการเก็บชัยชนะ หรืออย่างน้อยก็ทำให้สามารถออกไปด้วยผลเสมอจากเกมนี้
ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากสถิติการเล่นในบ้านของเฟเนร์บาห์เช่และสถิติที่น่าอับอายในนอกบ้านของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สถานการณ์ในเกมนี้ทางเฟเนร์บาห์เช่มีความได้เปรียบในด้านการเล่นที่บ้าน แต่การที่ทั้งสองทีมมีผู้เล่นบาดเจ็บสะสมอาจทำให้เกมนี้มีการพลิกผันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
สำหรับแมตช์ระหว่างเฟเนร์บาห์เช่และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในศึกยูโรปาลีกนี้ ดูเหมือนว่าความกดดันจะมีอยู่ไม่น้อยสำหรับทั้งสองทีมที่ต้องการชัยชนะ การที่ทั้งสองฝ่ายมีปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลักอย่างต่อเนื่องทำให้เกมนี้เป็นการ์ดที่สามารถพลิกไปมาได้ตลอดเวลา แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างที่เอื้ออำนวย เฟเนร์บาห์เช่ดูจะมีความแกร่งกว่าในบ้านของตนเอง
ทั้งนี้ สถิติการเล่นในบ้านของเฟเนร์บาห์เช่ก็ดูดีมาก ไม่แพ้ใครตลอดเจ็ดเกมหลังก็แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งในการพบกันกับคู่แข่งในยูโรปาลีก ขณะที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมีปัญหาฟอร์มแบบชัดเจนในนอกบ้าน แม้มีการส่งคืนความมั่นใจในลีกกับการชนะเบรนท์ฟอร์ด แต่นั่นก็ยังไม่ดูดีพอสำหรับการไปเยือนทีมที่แข็งแกร่งอย่างเฟเนร์บาห์เช่
จากข้อมูลทั้งหมด ความคาดการณ์ที่มีความเป็นไปได้สูงคือแมตช์อาจจะลงเอยด้วยการเสมอ 2-2 โดยทั้งสองทีมต่างมีจุดอ่อนด้านแนวรับที่ผู้เล่นต้องการคำนึงถึง
อย่างที่เห็นว่า แม้เฟเนร์บาห์เช่จะดูมีความได้เปรียบในเกมนี้ แต่ความดุดันของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในช่วงวิกฤติแบบนี้ก็น่าสนใจ เพราะทีมสามารถสร้างผลงานที่ดีในแมตช์สำคัญขึ้นมาได้